- ประเทศต้องเดินหน้าได้Posted 9 hours ago
- เด็กไทยต้องทำชีวิตก้าวหน้าPosted 1 day ago
- ยุคทะเลเดือดPosted 2 days ago
- รวยลัดเป็นเปลวนรกPosted 3 days ago
- คนทำบุญลดลงPosted 6 days ago
- ใช้สติปัญญาสู้ปัญหาPosted 1 week ago
- คนดีต้องไม่โกงPosted 1 week ago
- หมูเด้งแซงหน้ารัฐบาลPosted 1 week ago
- ผีซ้ำด้ำพลอยPosted 1 week ago
- ถ้าผลงานเข้าตาไม่มีใครไล่Posted 2 weeks ago
งานใหญ่ “UVWAF Ultra V World Aesthetic Forum BKK 2023”
งานใหญ่ UltraV World Aesthetic Forum (UVWAF) BKK 2023 ระดมแพทย์ไทยชื่อดัง และแพทย์จากต่างประเทศ ครั้งแรกในไทยร่วมแลกเปลี่ยนและพัฒนานวัตกรรมด้านความงาม
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 มีการจัด ‘UVWAF Ultra V World Aesthetic Forum BKK 2023’ ครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีแพทย์จากหลายประเทศทั่วโลกมาร่วมแลกเปลี่ยนนวัตกรรมทางด้านความงามที่มีความปลอดภัยสูงแก่คนไข้และเป็นที่นิยมใช้กว่า 44 ประเทศทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ยุโรป อเมริกา เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ รวมถึงแพทย์ไทยชื่อดังมาร่วมด้วย
นางสาว กัลยารัตน์ ชุตาทวีสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอุลตร้าวี เมดิคอล เอสเทธิค ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย ดร ควอน ฮัน จิน CEO of Ultra V Co.,LTD (Korea) กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ว่า จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้กับแพทย์ผู้ใช้งานทั่วโลกว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทอุลตร้าวีเป็นนวัตกรรมความงามที่มีความปลอดภัยสูงและเป็นที่นิยมใช้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยจะจัดเป็น world tour ตลอดทั้งปี 66 สำหรับในประเทศไทยครั้งนี้เป็นการจัดครั้งแรก และเป็นครั้งที่ 3 ของงานฯ ถัดไปจะเป็นที่ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, เวียดนาม ,และทางฝั่งยุโรป ตามลำดับ
กรรมการผู้จัดการ บริษัทอุลตร้าวี เมดิคอล เอสเทธิค ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯเป็นผู้นำด้านความงาม นำเข้าเครื่องมือแพทย์ ไหม ร้อยยกกระชับใบหน้า และ medical skin care ภายใต้แบรนด์อุลตร้าวี (UltraV) จากประเทศเกาหลีใต้ การจัดงานดังกล่าว เพื่อการยกระดับฝีมือแพทย์ไทย มีการ training ใน 44 ประเทศทั่วโลก และงานที่จัดขึ้นในวันนี้ มีแพทย์หลายๆ ประเทศ เข้ามาร่วมงานด้วย สำหรับหัวข้องานครั้งนี้ เป็นเรื่องผลิตภัณฑ์ของอุลตร้าวีทั้งหมดเพื่อการเรียนการสอนและแลกเปลี่ยนความเห็นตลอดจนการใช้ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆที่ถูกต้อง เช่นการร้อยไหมที่มีเทคนิคใหม่ๆ โดย ดร. ควอน ฮัน จิน ผู้นำด้านนวัตกรรมจากประเทศเกาหลี ได้หาเทคนิคและนวัตกรรมใหม่ๆมาแชร์เพื่อการเพิ่มขีดความสามารถของแพทย์ไทยเพื่อให้ทันเทรนด์เกาหลีในเรื่อง skin quality ที่ค่อนข้างมาแรงมาก เทรนด์นี้ เกาหลีจะมาก่อนเรา เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราจึงเป็น global band เป็นที่รู้จักในหลายประเทศทั่วโลก
โดยระบุว่าหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทุกประเทศเริ่มใช้นโยบายเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ มีการเติบโตมากขึ้น รวมถึงประเทศไทย ที่เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจที่จะเดินทางมาพักผ่อน หรือ การลงทุนซื้อบ้านหลังที่สองไว้ในยามเกษียณอายุ ขณะเดียวกัน ด้วยค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลสุขภาพในประเทศไทยที่ไม่สูง ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพเติบโตอย่างมาก รวมถึง อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับความงาม ที่ประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่เวทีโลก เพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศเกาหลี
“เรื่องการเติบโตของบริษัท อุลตร้าวี ในปีนี้จะเข้าสู่ปีที่ 8 มองว่าตลาดด้านความงามมีการขยายตัวและเติบโตต่อเนื่อง หลังเปิดประเทศยอดขายเติบโตขึ้นหลายเท่าตัว ลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีฐานะดีเข้ามาใช้บริการ เช่น ลาว พม่า มาเลเซีย ทำให้ตลาดโตขึ้น ยอดขายของบริษัทก็ดีขึ้น ในปีที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 50 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้ ด้วยการเปิดโปรดักส์ใหม่ น่าจะหนุนให้บริษัทมียอดขายถึง 400 ล้านบาท และด้วยตลาดที่ใหญ่ขึ้น ก็มีบริษัทอื่นๆที่เข้ามาสู่ตลาดความงามมากมาย ทั้งใหม่และเก่า เราจึงต้องพัฒนา และขยับให้แตกต่างจากคู่แข่ง โดยการเป็นผู้นำนวัตกรรม เน้นสินค้าที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร แต่เห็นผลดี ปลอดภัยสูง โดยอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ เพราะเรามีฐานการผลิตอยู่ 3โรงงาน และด้วยเหตุผลที่ประเทศเกาหลีมีมาตรฐานการผลิตที่สูง ทำให้บริษัทเน้นนำเข้าผลิตภัณฑ์มาขยายตลาดในประเทศไทย รวมถึงศึกษาแผนรองรับการขยายกำลังการผลิต หลังจากความต้องการใช้เครื่องมือแพทย์และสินค้า เพิ่มสูงขึ้นด้วย”
ด้านดร. ควอน ฮัน จิน CEO of Ultra V Co.,LTD (Korea) ให้ความเห็นเรื่องตลาดอุตสาหกรรมความงาม ของประเทศไทยว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นตลาดสำคัญ เป็น 1 ใน 3 ตลาดที่มีมูลค่าการนำเข้าในเอเชีย การมาร่วมเสวนากันครั้งนี้จะได้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น เป็นการตอกย้ำความมั่นใจของแพทย์ไทย เพราะคุณหมอจะสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ อะไรก็ตามในคลินิค ก็อยากให้มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ และมีความปลอดภัย เพื่อจะส่งต่อให้กับคนไข้ และยังเป็นการให้ความรู้ เทคนิค และนวัตกรรมใหม่ๆ แก่คุณหมอ ในการใช้ผลิตภัณฑ์ เครื่องมือ และนวัตกรรม ต่างๆได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้จริงอย่างคุณหมอ และจะเป็นกระบอกเสียงบอกต่อได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้การเสวนาครั้งนี้ มีแพทย์จากเวียดนาม กัมพูชา และอื่นๆ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจำหน่ายก็จะมีการเรียนการสอนแนะนำวิธีการใช้ ทำความเข้าใจเพื่อนำไปใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพราะคนไข้แต่ละคนจะใช้การรักษาที่แตกต่างกัน เมื่อแพทย์มั่นใจที่จะนำไปใช้รักษาคนไข้ก็จะมีการสั่งซื้อซ้ำได้อย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศเกาหลี มี 3 โรงงานคือ โรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์, โรงงานผลิตไหมยกกระชับ, โรงงานผลิต Skin Care
โดยนางสาวกัลยารัตน์ และดร.ควอน ร่วมกันเปิดเผยว่า การเสวนาครั้งนี้ จะพูดคุยถึงเรื่องของสารตัวหนึ่งซึ่งเอาไว้ร้อยไหม เย็บแผล ในการใช้งานที่ปลอดภัย และเราจะนำมาใช้ในรูปแบบใหม่ ที่เอาไว้ฉีด เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของ skin quality ที่กำลังมาแรงมาในเมืองไทย ที่สำคัญคือ เราเป็นเจ้าแรกที่เอาไหม PDO มาทำเป็นผงเล็กๆ เพื่อฉีดเข้าหน้า แทนการใช้ไหมธรรมดาในการร้อย PDO คือ ถ้าเราเอามาเย็บแผล ร้อยไหมในร่างกาย แล้วมันจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและผิวตรงนั้นมันเด้งขึ้น ในส่วนของ PDO มีใช้มามากกว่า 30 ปีแล้ว ค่อนข้างปลอดภัยที่สุดแค่เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานเป็นแบบฉีด ใช้ได้ตั้งแต่วัย 25 ปีขึ้นไป
พร้อมระบุว่าเมื่อผิวมีอายุมากขึ้นผิวด้านบนเราจะไม่เด้ง ตัวนี้จะช่วยในเรื่องผิวด้านบนให้มีความยืดหยุ่น มีความหนา แน่น ฟู เด้ง ให้เหมือนเราย้อนวัยไปอีก 10 ปี แต่ตัวนี้ก็จะมีข้อบ่งชี้ในการใช้ก็คือ จะมีเทคนิคนำไปใช้ยังไง ฉีดยังไง ฉีดส่วนไหนได้บ้าง ฉีดยังไงเห็นผลลัพธ์ดีที่สุด จึงได้จัดการเสวนานี้ขึ้น เพื่อการเรียนการสอนการใช้ผลิตภัณฑ์ ให้มั่นใจและปลอดภัย ตัวนี้คือ PDO Filler เรียกว่า เป็นโพลีเมอร์ตัวหนึ่งที่เรียกว่าเป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้ทำไหมละลายในการเย็บแผล ใช้ในการผ่าตัดทุกอย่าง ดังนั้นแค่เปลี่ยนฟอร์มจากรูปแบบเส้นให้เป็นน้ำ
ทั้งนี้ จากรายงานของ Grand View Research ที่ได้ประเมินมูลค่าตลาดเสริมความงามทั่วโลก คาดว่า ในปี 2570 มูลค่าตลาดจะขึ้นไปแตะระดับ 2.16 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7.14 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 13.9% (CAGR ปี 2563-2570) เพิ่มขึ้นจากปี 2563ประมาณ2.5เท่า โดยมูลค่าตลาดเสริมความงามในกลุ่มที่ไม่ใช่การศัลยกรรม (Noninvasive Procedures) มีสัดส่วนมากกว่าการเสริมความงามโดยการศัลยกรรม (Invasive Procedures) ที่ระดับ 56% ของมูลค่าตลาดเสริมความงามทั่วโลก
“ถ้ามองตลาดฟิลเลอร์รวมทุกแบรนด์ในไทย ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ฟิลเลอร์เป็นการปั้นรูป ขึ้นรูป ขึ้นทรง ตอนนี้ก็จะมีฟิลเลอร์กลุ่มงานผิวด้วย แต่ถ้าเติม HA ใต้ผิว จะช่วยแค่เรื่อง ฉ่ำวาว ความใส ของเราจะเป็น PDO ที่ไม่เกี่ยวกับ HA เลย ไม่ได้เป็นเรื่องความวาวใส แต่เป็นเรื่องของแท็กเจอร์ให้ผิวแน่นตึง เด้ง ซึ่งเราสามารถทำคู่กันกับการฉีดฟิลเลอร์ได้” นางสาวกัลยารัตน์ กล่าวและว่า บริษัทฯมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมที่คุณหมอสามารถจับจ่ายได้เลยไม่ต่ำกว่า 20 Items และมีนวัตกรรมที่เกี่ยวกับสเต็มเซลล์ ที่ยังไม่สามารถเอาเข้ามาได้เพราะติดเรื่องกฎหมาย ตัวที่เป็นท็อป 3 ที่ทำยอดขายให้บริษัท คือเครื่องทุกตัว ไหมยกกระชับหน้า และกลุ่มสกินแคร์ เราครบวงจรที่สุด ตั้งแต่เปิดประเทศ ความต้องการสินค้ามีเพิ่มขึ้น เช่น ตลาดภาคใต้ ที่หาดใหญ่ มาเลเซีย ภาคเหนือ ก็จะมี เชียงราย หรือทางอีสาน ก็จะมี หนองคาย ลาว ลูกค้าส่วนใหญ่กระเป๋าหนักกันทุกคน
“ทางบริษัทของเรามีจุดขาย คือความแตกต่าง ด้านนวัตกรรมความงาม ที่เราเป็นผู้นำและทราบเทรนด์ใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ก่อนใครและนำเข้ามาจัดจำหน่ายอย่างถูกต้องในประเทศไทยรวมถึง อุลตร้าวีเป็นแบรนด์ที่รู้จักและยอมรับจากแพทย์ความงามที่มีมากกว่า 44 ประเทศทั่วโลกสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดและแผนของการทำธุรกิจในปีนี้ เป็นการขยายฐานลูกค้าคลินิกให้มากขึ้นรวมถึงขยายไปยังโรงพยาบาลชั้นนำ และเพิ่มproductใหม่ๆ ภายใต้แบรน UItraV ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และมองหา Brand Ambassador ที่สามารถเข้าถึงend user ได้รวมถึงช่องทางonlineต่างๆ เช่น Tiktok , Reels”นางสาวกัลยารัตน์ กล่าวในตอนท้าย
You must be logged in to post a comment Login